(ISC)² Certified in Cybersecurity (CC) Certification(Certification Renewal)

การต่ออายุใบรับรอง  (ISC)² Certified in Cybersecurity (CC)  เนื่องจากแอดสอบไว้นานแล้วจะครบกำหนด เลยทำการต่ออายุ โดยใช้ใบรับรอง Certification ของค่ายอื่นๆ สามารถนำมาใช้เป็นหน่วยกิต CPE เพื่อต่ออายุใบรับรอง (ISC)² Certified in Cybersecurity (CC) ได้ โดยได้รับจำนวนหน่วยกิตตามนโยบายการศึกษาต่อเนื่องของ (ISC)²

เนื่องจาก Certification เกี่ยวกับ Security  เป็นใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับโดเมนความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์โดยตรง จึงนับเป็น Group A CPE credits ซึ่งเป็นหน่วยกิตทางเทคนิคที่จำเป็นสำหรับการต่ออายุ

เงื่อนไขการต่ออายุ คุณต้องได้รับเครดิตการศึกษาต่อเนื่อง  (CPE) 45 หน่วยกิตในรอบสามปี ส่งผ่านพอร์ทัล ISC2 และชำระค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษาประจำปี (AMF) 50 ดอลลาร์ทุกปี โดยจัดการทั้งหมดผ่านแดชบอร์ดสมาชิก ISC2 ของคุณ เมื่อครบ 3 ปี และคุณได้สะสม CPE ครบตามกำหนด พร้อมจ่าย AMF แล้ว คุณจะได้รับการต่ออายุสถานะสมาชิก CC

ทำการต่ออายุสมาชิก

จำนวน CPE Credits ที่คาดการณ์: โดยทั่วไป (ISC)² จะให้เครดิตสำหรับการสอบใบรับรองอื่น ๆ โดยอ้างอิงกับระดับของใบรับรองนั้น ๆ (เช่น บางครั้งอาจนับชั่วโมงการเตรียมตัวสอบ หรือนับเป็นจำนวนหน่วยกิตที่กำหนด)

• การสอบผ่านใบรับรองที่เกี่ยวข้อง: กิจกรรมเช่นการสอบผ่านใบรับรองที่เกี่ยวข้องกับ InfoSec สามารถให้เครดิตได้ถึง 40 CPE Credits

• ข้อกำหนด CC: ใบรับรอง CC มีข้อกำหนดในการต่ออายุค่อนข้างต่ำที่สุดในบรรดาใบรับรองของ (ISC)² คือต้องใช้รวม 45 CPE Credits ใน Group A และรวม 60 CPE Credits ภายใน 3 ปี

สรุปการต่ออายุ CC Certification

ข้อกำหนด	รายละเอียด
วงจรการต่ออายุ	3 ปี
CPEs รวมที่ต้องการ	60 CPE Credits (ภายใน 3 ปี)
Group A (เทคนิค)	45 CPE Credits (ต้องเกี่ยวข้องกับโดเมน CC)
Group A หรือ B (ทั่วไป)	15 CPE Credits (Group B คือการพัฒนาวิชาชีพทั่วไป)
ค่าธรรมเนียม	ต้องชำระ Annual Membership Fee (AMF) ทุกปี (หลังจากปีแรก) คุณต้องจ่ายค่าธรรมเนียมรายปี $50 USD (ประมาณ 50 เหรียญสหรัฐฯ).

วิธีการเพิ่มหน่วยกิต CPE ในระบบ (ISC)²

ขั้นตอนที่ 1: เข้าสู่ระบบ (Log in)

1. ไปที่เว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ (ISC)²

2. เข้าสู่ระบบบัญชีของคุณใน  https://cpe.isc2.org Portal (หรือ Member Login) โดยใช้ชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านของคุณ

ขั้นตอนที่ 2: ไปที่หน้า CPE Management

1. เมื่อเข้าสู่ระบบแล้ว ให้ค้นหาส่วนที่เกี่ยวข้องกับการจัดการใบรับรอง (Certifications) หรือการจัดการ CPE (CPE Management).

2. คลิกที่ตัวเลือก "Enter CPEs" หรือ "Manage CPEs"

   

ขั้นตอนที่ 3: เลือกประเภทกิจกรรม (Select Activity Type)

คุณจะต้องระบุว่ากิจกรรมที่คุณทำนั้นเป็น CPE ประเภทใด โดยทั่วไปแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มหลัก:

• Group A (Technical): กิจกรรมที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับความรู้และทักษะในโดเมนของใบรับรองของคุณ (เช่น การเข้าร่วมสัมมนาด้าน Digital Forensics, การสอบผ่าน CompTIA Security+, การทำงานวิจัยด้าน Cybersecurity)

• Group B (General): กิจกรรมที่ช่วยพัฒนาทักษะวิชาชีพทั่วไป (เช่น การเข้าฝึกอบรมด้านการบริหารจัดการ, การเงิน, หรือการสอน)

• 🇹🇭 แน่นอนครับ! การเพิ่มหน่วยกิต CPE (Continuing Professional Education) ในระบบของ (ISC)² ผ่านพอร์ทัล  เป็นขั้นตอนสำคัญในการต่ออายุใบรับรองของคุณ (เช่น CC, CISSP, CCSP)

  นี่คือขั้นตอนโดยละเอียดในการบันทึกกิจกรรม CPE ในระบบ (ISC)² ครับ:

  

  คลิกเลือกประเภทกิจกรรมที่ตรงกับที่คุณได้ทำมา เช่น:

  
  
  

  ประเภทกิจกรรม	ตัวอย่างกิจกรรมที่บันทึก
  Education/Training	การเข้าร่วมสัมมนา, หลักสูตรออนไลน์, การเรียนรู้ด้วยตนเอง
  Vendor Presentation	การเข้าร่วมงานนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านความปลอดภัยของบริษัทต่าง ๆ
  Self-Study	การอ่านหนังสือ, White Papers, หรือบทความที่เกี่ยวข้อง
  Publishing	การเขียนบทความ, การเขียนหนังสือ

  ขั้นตอนที่ 4: กรอกรายละเอียดกิจกรรม (Enter Activity Details)

  กรอกข้อมูลที่จำเป็นสำหรับกิจกรรมนั้น ๆ ซึ่งอาจแตกต่างกันไปตามประเภทที่เลือก แต่โดยทั่วไปต้องกรอกข้อมูลต่อไปนี้:

  1. Activity Name/Title: ชื่อหัวข้อหรือชื่อหลักสูตร/สัมมนา

  2. Date(s): วันที่เริ่มและวันที่สิ้นสุดกิจกรรม

  3. Source: ชื่อผู้จัดงาน, สถาบัน, หรือแหล่งที่มาของกิจกรรม (เช่น CompTIA ,EC-Council สำหรับการสอบ Cert ใหม่, University of X สำหรับการเรียน)

  4. CPE Credits Claimed: จำนวนหน่วยกิต CPE ที่คุณต้องการบันทึก

     • หลักการคำนวณ: 1 ชั่วโมงของการศึกษา = 1 CPE Credit

     • (ISC)² อนุญาตให้บันทึกเป็นจำนวนทศนิยมได้ (เช่น 1.5 CPEs)

  5. Summary/Description: คำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับกิจกรรมและวิธีที่กิจกรรมนี้เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (สำคัญมากสำหรับการตรวจสอบ)

  ขั้นตอนที่ 5: แนบเอกสารหลักฐาน (Attach Documentation)

  คุณต้องแนบเอกสารเพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการเข้าร่วมกิจกรรมนั้น ๆ เช่น:

  • ใบรับรอง (Certificate of Attendance): สำหรับการฝึกอบรมหรือสัมมนา

  • 
    
    

  • ใบเสร็จ (Receipts) หรือตั๋วเข้างาน: สำหรับการประชุมหรือการจัดงาน

  • ประกาศนียบัตร: สำหรับการสอบผ่านใบรับรองใหม่ (เช่น CompTIA ,EC-Council,SANS)

  • หลักฐานการเผยแพร่: สำหรับการเขียนบทความ/หนังสือ

  • 
    
    

  ขั้นตอนที่ 6: ตรวจสอบและส่ง (Review and Submit)

  1. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลทั้งหมด (ชื่อกิจกรรม, วันที่, และจำนวน CPEs ที่ขอ).

  2. อ่านและยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไข.

  3. คลิก "Submit" เพื่อส่งกิจกรรม CPE เข้าสู่ระบบ

     
     
     
     

     
     
     

  หน่วยกิตที่คุณบันทึกจะถูกตรวจสอบโดย (ISC)² ซึ่งอาจใช้เวลาสักครู่ในการประมวลผล แต่เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว หน่วยกิตนั้นจะถูกนับรวมในยอดรวม CPEs ของคุณสำหรับการต่ออายุ

นอกจากนี้ท่านสามารถทำแบบทดสอบเครดิต CPE ของ ISC2 Insights ประจำเดือน แบบทดสอบ 10 ข้อ โดยคำถามจะอิงจากเนื้อหาบทความที่ยาวกว่าบางส่วนในช่วงเวลาดังกล่าว หากทำแบบทดสอบผ่านจะได้รับเครดิต CPE สองหน่วยโดยอัตโนมัติ คำถามสำหรับแบบทดสอบนี้อ้างอิงจากบทความต่อไปนี้จากส่วน Insights บนเว็บไซต์ ISC2

อ่านเพิ่มเติม

• CHFI – Computer Hacking Forensic Investigator (Certification Renewal)
• CDFE – Certified Digital Forensics Examiner (Certification Renewal)
• รีวิวการสอบใบรับรอง Certified in Cybersecurity (CC)ของ (ISC)2 สมัครฟรี, เรียนฟรี, สอบฟรี

 ISC2 - How to Submit Group A CPE Credits  

หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WindowsForensic #ComputerForensics #dfir #forensics #digitalforensics #computerforensic #investigation #cybercrime #fraud

CHFI – Computer Hacking Forensic Investigator (Certification Renewal)

การต่ออายุใบรับรอง  Computer Hacking Forensic Investigator (CHFI) เป็นใบรับรองของ EC-Council

ได้เมลหลังสอบผ่าน CHFI 

การต่ออายุใบรับรอง CHFI Certification Renewal ดำเนินการภายใต้โปรแกรม EC-Council Continuing Education (ECE) โดยมีข้อกำหนดหลักดังนี้:

🎓 ขั้นตอนการต่ออายุใบรับรอง CHFI (EC-Council)

ใบรับรอง CHFI มีอายุมาตรฐาน 3 ปี และต้องดำเนินการตามข้อกำหนด ECE ดังต่อไปนี้:

1. การสะสมหน่วยกิต ECE (ECE Credits)

• จำนวนหน่วยกิต: คุณต้องได้รับหน่วยกิตรวม 120 ECE Credits ภายในระยะเวลา 3 ปี

  • โดยปกติ ควรสะสมอย่างน้อยปีละ 40 ECE Credits (และไม่น้อยกว่า 20 ECE Credits ต่อปี)

• แหล่งที่มาของ ECE Credits: หน่วยกิตจะได้รับจากกิจกรรมการศึกษาและการมีส่วนร่วมในวิชาชีพที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์/นิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งรวมถึง:

  • การเข้าร่วมหลักสูตร/การฝึกอบรม (เช่น หลักสูตรด้าน IT Security, การศึกษาในระดับอุดมศึกษา)

  • การเข้าร่วมสัมมนา/การประชุม/กิจกรรม (เช่น การประชุมระดับ Chapter หรือองค์กร)

    
  • ภาพตัวอย่างสัมมนาออนไลน์

  • การนำเสนอ (Presentation) หรือการสอน

  • การเขียน (Authoring) บทความ, บทในหนังสือ, White Paper (20 Credits) หรือการเขียนหนังสือ (100 Credits)

  • การพัฒนาเครื่องมือ ด้าน IT Security (40 Credits)

  • การอ่าน/การทบทวน หนังสือหรือบทความด้านความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ (5 Credits)

  • การสอบใบรับรอง อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง (40 Credits)

  • 
    
    

  •  ECE Category listing

2. การบันทึกและจัดการหน่วยกิต

• ช่องทางบันทึก: ผู้ถือใบรับรองต้องบันทึกกิจกรรม ECE ทั้งหมดผ่าน Aspen Portal ของ EC-Council

  
  
  

• กำหนดส่ง: ต้องบันทึกหน่วยกิตที่ได้รับภายในปีปฏิทิน (1 มกราคม – 31 ธันวาคม) ภายในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ของปีถัดไป ห้ามรอจนกว่าจะครบ 3 ปี เพื่อส่ง ECE

3. ค่าธรรมเนียมและการต่ออายุ

• ค่าธรรมเนียม: ต้องชำระ ค่าธรรมเนียมการบำรุงรักษารายปี (Annual Maintenance Fee)

  • ค่าธรรมเนียมประมาณ $80 USD ต่อปี สำหรับใบรับรองเดียว  

    

  • 
    
    

• การต่ออายุ: เมื่อคุณสะสมหน่วยกิต ECE ครบ 120 Credits และชำระค่าธรรมเนียมแล้ว ใบรับรองของคุณจะถูกขยายอายุออกไปอีก 3 ปี

  
  
  

4. การปฏิบัติตามจรรยาบรรณ

• ผู้ถือใบรับรองจะต้องปฏิบัติตาม Code of Ethics ของ EC-Council

ข้อควรระวัง: หากคุณไม่สามารถดำเนินการตามข้อกำหนด 120 ECE Credits และชำระค่าธรรมเนียมรายปีได้ภายใน 3 ปี ใบรับรองของคุณจะถูก ระงับ (Suspend) และอาจถูก เพิกถอน (Revoked) ในที่สุด

 

อ่านเพิ่มเติม

• CDFE – Certified Digital Forensics Examiner (Certification Renewal)

• หลักสูตรฝึกอบรม Digital Forensics อบรมฟรี เรียนที่ไหนได้บ้าง
• ก้าวสู่อาชีพด้านการสืบสวน นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ
• Certified Hacking Forensic Investigator (C|HFI)

หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WindowsForensic #ComputerForensics #dfir #forensics #digitalforensics #computerforensic #investigation #cybercrime #fraud

CDFE – Certified Digital Forensics Examiner (Certification Renewal) 

Update 12-4-2025

วันนี้มาต่ออายุ Cert เนื่องด้วย สอบไว้นานแล้ว ก็เลยต่ออายุ  เก็บไว้  

ทำมัยต้องต่ออายุ การต่ออายุใบรับรอง (Certification Renewal) ของ Mile2 มีความจำเป็นอย่างยิ่งในสายงาน Cybersecurity และ Digital Forensics เพื่อรักษาความน่าเชื่อถือและความสามารถของผู้เชี่ยวชาญให้ทันสมัยอยู่เสมอ  

 การเป็นทางเลือกในการต่ออายุ (Alternative Renewal Path)

• สำหรับผู้ที่มีใบรับรอง Mile2 อยู่แล้ว การต่ออายุโดยใช้ CEUs เป็นวิธีที่สะดวกและคุ้มค่าในการรักษาความถูกต้องของใบรับรอง เทียบกับการต้องไปสอบใบรับรองอื่น ๆ ซ้ำ

ข้อกำหนด: การต่ออายุมีความจำเป็นเพื่อให้ใบรับรองยังคงมีผลและไม่หมดอายุ หากไม่ต่ออายุตามข้อกำหนด ใบรับรองอาจถือเป็นโมฆะ ทำให้ไม่สามารถใช้เป็นหลักฐานยืนยันความสามารถในอาชีพได้

 

การติดตามความก้าวหน้าของเทคโนโลยี (Keeping Pace with Technology)

• อุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลง: ความมั่นคงปลอดภัยทางไซเบอร์และนิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลเป็นสาขาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (เช่น เทคนิคการเข้ารหัสใหม่, ระบบปฏิบัติการใหม่, เครื่องมือทางนิติวิทยาศาสตร์ใหม่)

• การศึกษาต่อเนื่อง (CEUs): การกำหนดให้สะสม 60 CEUs เป็นกลไกที่รับประกันว่าผู้เชี่ยวชาญได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ที่เกี่ยวข้อง

 การรักษามาตรฐานวิชาชีพและความน่าเชื่อถือ (Professional Standards and Integrity)

• จรรยาบรรณ: ทุกเส้นทางในการต่ออายุต้องกำหนดให้ผู้สมัคร ยอมรับ นโยบายและหลักจรรยาบรรณ (Code of Ethics) และต้องตอบคำถามจรรยาบรรณ 7 ข้อ

• ความน่าเชื่อถือ: การต่ออายุแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการปฏิบัติตามมาตรฐานสูงสุดทางจริยธรรมและวิชาชีพ ซึ่งสำคัญมากในงาน Digital Forensics เพื่อให้หลักฐานที่ตรวจสอบมีความน่าเชื่อถือในชั้นศาลหรือในองค์กร

ข้อกำหนดในการทำงาน (Employment Requirements)

• นายจ้างหลายราย (โดยเฉพาะหน่วยงานภาครัฐ เช่น ในสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Mile2 มีการรับรองที่สอดคล้องกับมาตรฐานของพวกเขา) มักจะกำหนดให้พนักงานรักษาใบรับรองที่เกี่ยวข้องให้มีผลอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องใช้ทักษะเฉพาะทางได้

สรุปขั้นตอนการต่ออายุใบรับรอง (Certificate Renewal) ของ Mile2

ใบรับรองของ Mile2 ที่ได้รับภายหลังวันที่ 31 ธันวาคม 2015  Mile2 กำหนดให้มีการต่ออายุทุก 3 ปี

การต่ออายุ มี 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้:

1. การสะสมหน่วยกิตการศึกษาต่อเนื่อง (CEUs)

คุณต้องสะสมหน่วยกิต Continuing Education Units (CEUs) ให้ครบตามข้อกำหนด โดยมีรายละเอียดดังนี้:

• จำนวน CEUs ที่ต้องการ: 60 CEUs

• ระยะเวลา: ต้องสะสมให้ครบภายในรอบระยะเวลา 3 ปีของใบรับรอง

2. การบันทึกและตรวจสอบ CEUs

• ขั้นตอน: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณได้ บันทึก (Enter) หน่วยกิต CEUs ทั้งหมดของคุณเรียบร้อยแล้ว และหน่วยกิตเหล่านั้นได้ปรากฏอยู่ใน Transcript (ใบแสดงประวัติ) ของคุณ

• กิจกรรมที่เข้าเกณฑ์: มีหลายกิจกรรมที่คุณสามารถนำมาใช้เป็น CEUs ได้ เช่น

• • กิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับ Mile2

  • โครงการใบรับรองที่ไม่ใช่ของ Mile2 (Non-Mile2 certification programs)

  • กิจกรรมอื่น ๆ ที่หลากหลาย (miscellaneous other activities)

• การเตรียมหลักฐาน: ให้ทำการ ถ่ายภาพหน้าจอ (Screenshot) หรือ ดาวน์โหลด (Download) ใบแสดงประวัติ (Transcript) ของคุณเก็บไว้

• 
  
  

• 

3. การซื้อผลิตภัณฑ์ต่ออายุ (Purchase Renewal)

• ขั้นตอน: ทำการ ซื้อ (Purchase) ผลิตภัณฑ์สำหรับต่ออายุใบรับรองที่เกี่ยวข้อง (Purchase Your Certification Renewal)

• ค่าธรรมเนียม: จะต้องชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบรับรองด้วย

  
  
  

4. การตอบคำถามจรรยาบรรณ

• ขั้นตอน: ตอบคำถามเกี่ยวกับ "จรรยาบรรณ (Code of Ethics)" จำนวน 7 ข้อ ซึ่งอยู่ในผลิตภัณฑ์ต่ออายุที่คุณได้ซื้อมาใหม่

  

อ่านเพิ่มเติม :CDFE – Certified Digital Forensics Examiner

หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น ช่วยเตือนความจำ

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WINDOWSFORENSIC #COMPUTERFORENSICS #DFIR #FORENSICS #DIGITALFORENSICS #COMPUTERFORENSIC #INVESTIGATION #CYBERCRIME #FRAUD 

นิติวิทยาศาสตร์ดิจิทัลไขคดีฆาตกรรมวัย 24 ปี

พยานหลักฐานคดีฆาตกรรม: หลักฐานดิจิทัล

Photo credit:@AETV

การใช้ Digital Forensic ในการหาหลักฐาน

• ทีมสืบสวนตัดสินใจรวบรวมอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมด และทำรายการสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ทุกชิ้นที่ผู้ตายเคยซื้อ เพื่อเปรียบเทียบกับรายการที่อยู่ในบ้าน

Photo credit:@AETV

Photo credit:@AETV

• สิ่งที่พบว่าหายไปเพียงชิ้นเดียวคือเครื่องเล่น Nintendo Switch

Photo credit:@AETV

Photo credit:@AETV

Photo credit:@AETV

• นักสืบดำเนินการออกหมายเรียกข้อมูล ไปยัง Nintendo

Photo credit:@AETV

• ข้อมูลจาก Nintendo เปิดเผยว่า เครื่อง Switch ถูกเปิดใช้งานหลังจากเกิดเหตุฆาตกรรม

• เครื่อง Switch นั้นเชื่อมต่อกับที่อยู่ IP (IP address) ซึ่งเกี่ยวข้องกับบ้านพักแห่งหนึ่ง (900 Downtowner Boulevard) และเชื่อมโยงกับผู้ที่พักอาศัยชื่อ Kyneesha

Photo credit:@AETV

Photo credit:@AETV

• จากการสัมภาษณ์ Kyneesha เธอได้เปิดเผยว่า "Tiquez" ซึ่งเป็นน้องชายมีการพก Nintendo Switch ติดตัวมาด้วย

Photo credit:@AETV

• นักสืบพบว่า Tiquez ได้ซื้อรถยนต์ Honda Accord สีขาว รุ่นปี 2009 เมื่อไม่นานมานี้

Photo credit:@AETV

• พวกเขาตั้งสมมติฐานว่ารถคันนี้อาจมีระบบ GPS ติดตาม

Photo credit:@AETV

• พบว่ารถคันดังกล่าวติดตั้งระบบ GPS แบบเรียลไทม์ (real-time GPS)

• ข้อมูล GPS แสดงให้เห็นว่ารถของ Tiquez Timmons อยู่ที่ Crestwood Drive ใน Mobile

Photo credit:@AETV

• เมื่อ Tiquez ถูกนำตัวมาสอบสวนและเผชิญหน้ากับหลักฐาน Nintendo Switch ข้อมูล GPS ได้ชี้ชัดว่ารถของเขาอยู่ฝั่งตรงข้ามกับที่เกิดเหตุในช่วงเวลาที่ศาสตราจารย์ Wiser ถูกฆ่า (ประมาณ 11:50 น.) ข้อมูลนี้ขัดแย้งกับคำกล่าวอ้างของเขา

Photo credit:@AETV

• เมื่อเผชิญหน้ากับหลักฐานดิจิทัล โดยเฉพาะ GPS ที่ระบุตำแหน่งของเขา นักสืบตั้งทฤษฎีว่าเขาอาจเป็นเพียงคนขับรถ

Photo credit:@AETV

Photo credit:@AETV

บทสรุป

• Tiquez ตระหนักว่าเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่อาจถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม จึงตัดสินใจร่วมมือและเปิดเผยเรื่องราวทั้งหมด โดยยอมรับว่าเขาและคนอีกสองคนมักจะบุกเข้าไปในบ้านเพื่อลักทรัพย์อยู่เป็นประจำ พวกเขาเลือกบ้านของ Mr. Wiser โดยคิดว่าไม่มีใครอยู่บ้าน (เพราะผู้ตายไม่มีรถยนต์) และตั้งใจจะเข้าไปขโมยทรัพย์สิน แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ตั้งใจฆ่า แต่พวกเขาเอาอาวุธติดตัวไปด้วย เมื่อบุกรุกและเจอ Dr. Wiser จึงได้เกิดการต่อสู้และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตของศาสตราจารย์ Wiser ในที่สุด

• คดีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่แสดงให้เห็นว่า Digital Forensic เป็นกุญแจสำคัญในการไขปริศนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่การสืบสวนแบบดั้งเดิม (เช่น การหาแรงจูงใจจากผู้คนรอบข้าง) ไม่ประสบผล หากปราศจากข้อมูลดิจิทัลที่มาจาก Nintendo Switch และข้อมูล GPS ของรถยนต์ คดีอาจจะไม่มีทางคลี่คลายได้เลย เนื่องจากแรงจูงใจเบื้องต้นตามที่สันนิษฐานไว้ในตอนแรกนั้นดูไม่สมเหตุสมผลและหลักฐานดิจิทัลจึงทำหน้าที่เหมือนเป็น "พยาน" ที่ไม่สามารถโกหกได้ ซึ่งนำไปสู่การสารภาพในที่สุด

Photo credit:@AETV

“พยานหลักฐานคดีฆาตกรรม: หลักฐานดิจิทัล” เผยให้เห็นว่าเทคโนโลยีได้กลายมาเป็นนวัตกรรมใหม่ในการไขคดีฆาตกรรม แสดงให้เห็นถึงวิธีการอันน่าประหลาดใจที่ข้อมูลโทรศัพท์มือถือ นาฬิกาอัจฉริยะ อุปกรณ์ติดตามการออกกำลังกาย อุปกรณ์ GPS พิกัดตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ กริ่งประตูและกล้องจราจร อุปกรณ์เล่นเกม วิดีโอวงจรปิด การค้นหาทางอินเทอร์เน็ต แอปพลิเคชัน และข้อความบนโซเชียลมีเดีย สามารถเป็นเบาะแสสำคัญในการสืบสวนคดีฆาตกรรมได้

Reference: ขอขอบคุณข้อมูลจาก Hacking & Security FB ,@AETV

หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น ช่วยเตือนความจำ

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WINDOWSFORENSIC #COMPUTERFORENSICS #DFIR #FORENSICS #DIGITALFORENSICS #COMPUTERFORENSIC #INVESTIGATION #CYBERCRIME #FRAUD #WitnesstoMurderDigitalEvidence