Digital Forensics: Incognito mode
Web Browser ในการใช้งานโดยปรกติทั่วไปนั้น เมื่อผู้ใช้เข้าไปที่เว็บไซต์อะไร หรือกระทำอะไรต่าง ๆ ลงไปโดยใช้ Web Browser นั้น โปรแกรมเว็บเบราเซอร์จะทำการบันทึกข้อมูลบางส่วนเก็บเป็น History ไว้กับ Web Browser เช่น บันทึก URL ของเว็บไซต์ที่เปิดดู, บันทึกข้อมูลการค้นหาจาก Search Engine อย่าง Google เป็นต้น
----------------
วิธีแก้ปัญหาสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการให้โปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์เก็บประวัติข้อมูลการท่องเว็บไว้ในเครื่อง คือการเข้าชมเว็บไซต์
ผ่านฟังก์ชั่น “เข้าชมแบบไม่ระบุตัวตน” หรือ incognito mode ใน Google Chrome บางเบราว์เซอร์อาจจะเรียกว่า
Private Window แต่หลัก ๆ แล้วมีลักษณะและคุณสมบัติการใช้งานเหมือนกัน
วิธีเปิดใข้งาน Incognito mode
เปิดโปรแกรมเว็บเบราว์เซอร์ขึ้นมา ไปที่เมนู File -> incognito mode หรือกดคีย์ลัด คือ
กด Ctrl+SHIFT+N สำหรับ Google Chrome สำหรับเครื่อง Macintosh เปลี่ยนจาก Ctrl เป็น Command
แต่เราสามารถตรวจสอบข้อมูลว่ามีการเข้าไป website ที่ไหนบ้าง ผ่านทาง DNS
1. ให้ทำการ ล้างค่าใน DNS ก่อน เผื่อจะได้สังเกตุว่ามีข้อมูลอะไรใหม่บ้าง
Step 1 Flushdns |
Step 2 Whois |
Step 3 Flushdns |
Step 4 Incongnito |
Step 5 website |
Step 6 dnsdisplay |
shorturl.at/mpwKM
https://www.dwthai.com
https://www.codebee.co.th
หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น
* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ
* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ
No comments:
Post a Comment