Tuesday, April 16, 2019

Digital Forensics: รีวิวประสบการณ์​ขอเงินคืนจากบัตรเครดิต

Digital Forensics:รีวิวประสบการณ์​ขอเงินคืนจากบัตรเครดิต ในรายการที่ตัวเองไม่ได้ใช้

 ที่มา: Facebook Manupat Sriboonlue

รีวิวประสบการณ์​ขอเงินคืนจากบัตรเครดิต ในรายการที่ตัวเองไม่ได้ใช้

 เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 7 เม.ย.62 เวลา 12.11 น. และ 12.18 น. ตามลำดับ ได้มี SMS ธนาคาร ส่งมาแจ้งเตือน ว่าบัตร K Web Shopping​ Card ของกระผม (คือ บัตรเดบิต ไม่ใช่เครดิต หมายถึง ต้องมีเงินใน บช อยู่ ถึงใช้ซื้อของในเน็ตได้ และไม่มีตัวบัตรจริงๆ แต่จะให้มาเฉพาะตัวเลขบัตร เป็นบริการของ Kbank)​ โดยบัตรนี้ ได้ถูกใช้ซื้อผลิตภัณฑ์​ใน itune จำนวน 2 รายการ รายการละ 249 และ 429 บาท ตามรูปที่ 1 และ 2

กระผมตรวจสอบดูแล้ว ว่าตนเองไม่ได้ทำ 2 รายการนี้ และ itune ของกระผม ก็ไม่มีประวัติทำรายการ และไม่ได้ตั้ง Auto Subscribe​ ให้หักเงิน ต่ออายุ บริการอัตโนมัติไว้แต่อย่างใด ตอนนั้นเชื่อว่า มีคนรู้เลขบัตร แล้วเอาไปใช้แน่ๆ

กระผมตั้งสติ และทำตามขั้นตอนดังนี้
1) เพื่อไม่ให้ถูกใช้บัตร หักเงินใน บช ไปมากกว่านี้ จึงได้โอนเงินใน บช ทั้งหมด ผ่าน Mobile App Banking ไปไว้ บช อื่น
2) อายัดบัตร อย่างของกระผม เข้าไปในเว็บ Log in แล้วกดอายัดผ่านเว็บ จากนั้นค่อย สมัครบัตรใหม่
3) โทรเข้า Call Center Kbank 028888888 แจ้งพนักงานว่า "ขอทักท้วงรายการใช้บัตร K Web Shopping" พนักงานจะสอบถาม ให้ยืนยันตัวตน และถามรายละเอียด ธุรกรรมที่เราจะทักท้วง
4) เมื่อคุยกับ Call Center เพื่อทักท้วงเสร็จ​ วันรุ่งขึ้น ต้องส่ง เอกสารแนบ 4 อย่าง ไปทางอีเมล์ ที่พนักงานให้ไว้ ได้แก่ 1.แบบฟอร์ม​ทักท้วง (รูปที่ 3) 2.สำเนาบัตร ปชช 3.สำเนาหน้าสมุด บช และ 4.รูปถ่าย SMS แจ้งเตือน ยอดรายการที่เราจะทักท้วง
5) เมื่อส่งเมล์แล้วเสร็จ ให้โทรแจ้ง Call Center อีกรอบ เพื่อยืนยันว่า ได้รับเมล์เรียบร้อย จากนั้นก็รอกระบวนการตรวจสอบ
6) กระทั่งวันนี้ 17 เม.ย.62 ได้รับ SMS แจ้งเตือนจากธนาคาร ว่าได้คืนเงิน ทั้ง 2 รายการ เข้า บช.เรียบร้อย ใช้เวลาจากวันเกิดเหตุ 7 เม.ย. ถึงวันนี้ 17 เม.ย. รวม 10 วัน ถือว่าโอเค

Mobile App Banking
Mobile App Banking



 
Mobile App Banking

ปล.

- โดนตัดบัตรไป โดยที่เราไม่ได้ทำรายการ อย่าลืมว่าสามารถทักท้วงได้ แบบกรณีนี้

- กรณีนี้ เป็นบัตรเดบิต คือ ต้องมีเงินใน บช เต็มจำนวน ถึงใช้ตัด ซื้อของในเน็ตได้ หมายถึง เงินที่หักไป เป็นเงินเรา ต่างจากบัตรเครดิต ที่เป็นเงินธนาคาร คือ ธนาคารให้วงเงินเครดิตมาก่อน เมื่อเราใช้ไป ค่อยจ่ายคืน ให้ธนาคารตอนสิ้นเดือน พร้อมดอกเบี้ย ดังนั้น การทักท้วงบัตรเครดิต อาจมีปัญหาว่า เราต้องจ่ายยอดนั้นไปก่อน แล้วรอธนาคารตรวจสอบคืนเงินกลับมาหรือไม่ หรือรอธนาคารตรวจสอบ โดยที่ไม่ชำระยอดนั้นเลย ซึ่งการไม่ชำระ อาจนำมา สู่การเสียเครดิตบูโรของเรา ดังนั้น หากเป็นบัตรเครดิต ควรปรึกษาธนาคาร ก่อนตัดสินใจ

- ชมเชย Kbank ตรวจสอบได้ถูกต้อง รวดเร็ว บริการทุกระดับ ประทับใจ


 ขออนุญาตแชร์เพื่อให้ความรู้กับคนอื่นนะครับ


 .............................................................................................................................

คำพิพากษาศาลฎีกา
2840/2550

คดีนี้เป็นการฟ้องร้องของธนาคารซึ่งโจทก์ให้ผู้ถือบัตรซึ่งเป็นจำเลยชำระหนี้ที่เกิดขึ้นจากบัตรเครดิตที่ถูกขโมยไป จำเลยได้แสดงหลักฐานและมีการนำสืบพยานจนทำให้ศาลเห็นว่าบัตรเครดิตของจำเลยหายไปจริง และจำเลยไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตรตามจำนวนเงินที่ธนาคารเรียกร้องมา ศาลฎีกาจึงตัดสินดังนี้ จำเลยต้องรับผิดชอบในหนี้บัตรเครดิตที่เกิดจากการที่บุคคลอื่นนำบัตรเครดิตของจำเลยไปใช้ต่อเมื่อจำเลยได้ยินยอมหรืออนุญาต แต่การที่บัตรเครดิตของจำเลยถูกขโมยไปย่อมแสดงว่าจำเลยไม่ได้ยินยอมหรืออนุญาตให้มีการใช้บัตรเครดิตนั้น จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดขึ้นในกรณีนี้ ซึ่งคดีนี้จำเลยชนะติดต่อกันทั้งสามศาล

คำพิพากษาศาลฎีกา
1989/2552

คดีนี้เป็นการฟ้องร้องของธนาคารต่อจำเลยที่เป็นผู้ถือบัตรเครดิตให้จ่ายหนี้ในขณะที่จำเลยไม่จ่ายโดยอ้างว่าตนเองไม่ได้เป็นผู้ใช้บัตร เนื่องจากได้เดินทางไปฮ่องกงและบัตรเครดิตได้สูญหายไปในระหว่างนั้น มีผู้ขโมยบัตรเครดิตของจำเลยไปและปลอมลายมือชื่อเพื่อใช้บัตรเครดิตนั้นเพื่อรูดซื้อสินค้า โดยโจทก์ได้อ้างถึงข้อตกลงการใช้บัตรวีซ่า ข้อ 8 ที่ให้จำเลยต้องรับผิดในกรณีบัตรเครดิตสูญหาย ถูกขโมย หรือถูกใช้โดยบุคคลอื่นด้วย โดยจำเลยได้โทรแจ้งเรื่องบัตรหายในวันที่ 21 กรกฎาคม 2544 เวลาประมาณบ่ายสามโมง ในขณะที่ยอดหนี้ที่รูดจากบัตรไปเป็นการรูดที่ร้านเจมาร์ท เซ็นทรัลลาดพร้าว ในวันที่ 21 กรกฎาคม 2544 เวลา 11.05 น. ซึ่งเกิดขึ้นก่อนที่ผู้ถือแจ้งอายัดบัตรกับทางธนาคาร ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยต้องรับผิดชอบต่อหนี้นี้ จำเลยยื่นอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง

จากกรณีตัวอย่างของคำพิพากษาในเรื่องของบัตรเครดิตสูญหายจะเห็นว่าผู้ถือบัตรไม่ต้องรับผิดชอบในจำนวนหนี้ที่เราไม่ได้ก่อขึ้น
แต่แม้จะมีคำพิพากษาเป็นบรรทัดฐานแบบนี้ ธนาคารส่วนใหญ่ก็ยังคงใช้ข้อกำหนดเงื่อนไขในสัญญาแกมบังคับให้ผู้ถือบัตรเป็นผู้ต้องจ่ายคืนหนี้อยู่ดี หากผู้ถือบัตรต้องการความเป็นธรรมจากกรณีดังกล่าว ไม่สามารถตกลงกับทางธนาคารได้ ก็ต้องให้กฎหมายช่วย แต่สิ่งสำคัญก็คือทันทีที่ทราบว่าบัตรเครดิตหายหรือถูกขโมยไป ขอให้โทรแจ้งอายัดบัตรเครดิตกับทางธนาคารทันทีเพื่อให้ธนาคารระงับการใช้บัตรเครดิตทันก่อนที่จะมีความเสียหายเกิดขึ้น  และเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดก่อนเพื่อเป็นหลักฐานไว้ด้วย

แจ้งอายัดบัตร ATM

เบอร์แจ้งอายัดบัตร ATM - บัตรเครดิตหาย

  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารกรุงเทพ 1333
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารกรุง ศรีอยุธยา1572
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารไทยพาณิชย์ 0-2777-7777
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารไทยธนาคาร 0-2626-7777
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารธนชาต 1589
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารออมสิน 0-2299-8555
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคาร City Bank 1588
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคาร HSBC 1590
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย0-2729-8807 ถึง 11
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (L&H)0-2359-0000
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Diners Club 0-2238-3660
  • เบอร์โทรศัพท์บัตร Cetelem 0-2667-3655
  • เบอร์โทรศัพท์บัตรเครดิตไทยแอร์เอเชีย 0-2797-3399
  • เบอร์โทรศัพท์  ธนาคารกรุงไทย 1551
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารกสิกรไทย 0-2888-8888
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารทหารไทย1558
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคาร UOB จำกัด (มหาชน)1580
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคาร Standard Chartered1595
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์0-2202-2000
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารเอเชีย1585
  • เบอร์โทรศัพท์ ธนาคารทิสโก้ 0-2633-6000
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตร American Express 0-2273-5544
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตร Aeon 0-2665 0111
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตร Power Buy 0-2627-8208
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตรแคปิตอล โอเค 0-2793-3333
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตร Easy Buy 0-2695-0000
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตร umay plus 0-2695-0000
  • เบอร์โทรศัพท์ บัตรเซ็นทรัลการ์ด 0-2627-8111 

ถ้าโทรศัพท์หาย รีบโทรแจ้ง Call Center ของธนาคารทุกแห่งที่เรามี Mobile Banking

ถ้าโทรศัพท์หาย รีบโทรแจ้ง Call Center ของธนาคารทุกแห่งที่เรามี Mobile Banking

 

Digital Forensics: Case Study

ที่มา:
Facebook Manupat Sriboonlue
money.kapook.com/view185330.html
https://moneyhub.in.th/article/credit-card-was-stolen-and-used/
http://www.kraisornlawyer.com/15673457/ถูกขโมยบัตรเครดิตไปใช้-ผู้ถือบัตรต้องรับภาระหนี้ดังกล่าวหรือไม่



หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WindowsForensic #ComputerForensics #dfir #forensics #digitalforensics #computerforensic #investigation #cybercrime #fraud

No comments:

Post a Comment

Digital Forensics:WhatsMyName (OSINT)

Digital Forensics:WhatsMyName (OSINT) Welcome to WhatsMyName This tool allows you to enumerate usernames across many websites How to use: 1....