DIGITAL FORENSICS:คดีกระทำความผิดโดยใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
#คดีกระทำความผิดโดยใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ
การใช้คอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือในการทำผิด จะมีมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต.. การสืบสวนหาตัวผู้กระทำความผิด..และการรวบรวมพยานหลักฐาน จำเป็นต้องใช้ความรู้ใหม่ๆ..เพื่อทราบว่าหลักฐานอยู่ที่ไหน..
โดยทั่วไปหลักฐานดิจิตัลจะหาได้ใน 3 แหล่งที่ตำรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานจะต้องทราบและเก็บมาเสนอต่อศาล..นั่นคือ...
1) แหล่งที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการกระทำผิด..
เช่น ข้อมูลที่ค้างอยู่บนจอภาพและในความจำชั่วคราวขณะเข้าจับกุม.. cookies.. ประวัติการเข้าเวปไซต์.. thumb drive ที่เสียบอยู่.. แผ่นดิสก์ที่อยู่ใกล้เคียง..
2) แหล่งที่ตั้งของ Server, Gateway, Cellsite, ISP หรือผู้ให้บริการเชื่อมต่ออินเตอร์เนต หรือค่ายมือถือ..
เช่น ข้อมูลการติดต่อสื่อสารที่บ่งบอกเวลา.. IP Address.. เบอร์โทร.. หมายเลขอีมี่ของเครื่อง ระหว่างมือถือกับ ISP ที่เก็บไว้ (log files)..
3) แหล่งที่ตั้งของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือที่ความผิดปรากฎ..
เช่น ภาพหน้าจอที่ปรากฎการกระทำผิด เช่น ข้อความหมิ่นประมาท..หลอกลวงโดยแสดงภาพ/ข้อความอันเป็นเท็จเพื่อให้ส่งมอบข้อมูลส่วนบุคคล (phishing).. ไวรัส หรือคำสั่งให้โจมตีระบบ (malicious code) ที่ฝังตัวอยู่ในเครื่อง..
พนักงานอัยการมีหน้าที่พิจารณาสั่งฟ้อง และนำพยานมาสืบในศาล .. อัยการจึงต้องรู้ว่า electronic data ชิ้นใดที่ได้มาจาก 3 แหล่งนั้นเป็นหลักฐานสำคัญ และมีเพียงพอให้ศาลรับฟังลงโทษจำเลยได้..
ผู้พิพากษามีหน้าที่พิสูจน์ความจริง ยกฟ้องผู้บริสุทธิ์และลงโทษคนทำผิดอย่างเหมาะสม .. ศาลจึงต้องรู้ว่า อะไรจริง อะไรเท็จ..
digital evidence ชิ้นใดที่ต้องถูกตัดมิให้รับฟัง (exclusionary rule).. หลักฐานปกติและหลักฐาน electronic evidence ชิ้นใดที่จะนำมาชั่งน้ำหนัก..
การให้คุณค่า ความน่าเชื่อถือของพยานที่เป็นข้อมูลอิเล็คทรอนิกส์และที่เป็นผู้เชี่ยวชาญที่จะมาเบิกความประกอบ ..
.. ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ท้าทายความรู้ความสามารถ ทั้งตำรวจ อัยการ และศาลเป็นอย่างยิ่ง.. เพราะความรู้ตามตำราที่เคยเรียนมาในชั้น ป. ตรี ป. โท และนบท. รวมทั้ง คำพิพากษาเก่าที่เคยตัดสินแบบนี้มาก่อน (precedent) นั้น... .. ไม่มี!
องค์ความรู้ใหม่ๆเหล่านี้คือความรู้ทางวิชาการที่จำเป็นต้องศึกษาเพิ่มเติม .. ส่วนแนวทางการตัดสินคดี คำพิพากษาฎีกาทั้งหลาย แม้จะมีคุณค่าและเป็นประโยชน์ในการทำงาน แต่ก็มิใช่องค์ความรู้ทางวิชาการในเรื่องนี้..
คดีในปัจจุบัน ถ้าตำรวจ อัยการ ศาล.. เอาความรู้ระดับกฎหมายสี่มุมเมือง (ปพพ. ปอ. ปวิพ. ปวิอ.) มาใช้ ย่อมไม่เพียงพอที่จะ ค้นหาความจริงได้. .. ความเป็นธรรมย่อมไม่เกิด..
... ถึงเวลา (นาน) แล้วครับ.. ที่โรงเรียนสอนกฎหมายทุกแห่งในประเทศไทย ควรสอนวิชาใหม่ๆ เช่น
Cyber Crime (การโจมตีโดยระบบคอมพิวเตอร์)
Digital Forensic (การตรวจพิสูจน์พยานหลักฐานทางคอมพิวเตอร์) และ
Digital Evidence (การรับฟังและชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานที่เป็นดิจิตัล)
ขอฝากครูบาอาจารย์ในมหาวิทยาลัยต่างๆไว้ด้วยความเคารพครับ..
ที่มา:facebook ท่านอาจารย์. ดร.ธีร์รัฐ ไชยอัคราวัชร์ 12 ก.ย 2561
ขอขอบคุณ ท่านอาจารย์. ดร.ธีร์รัฐ ไชยอัคราวัชร์ ขออนุญาตแชร์เป็นวิทยาทาน
หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น
* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ
No comments:
Post a Comment