วิธีการปฏิบัติต่อของกลางประเภทอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเลคทรอนิกส์ เพื่อนำส่งตรวจพิสูจน์
ถ่ายภาพให้ได้อุปกรณ์ของกลางครบทุกชิ้น
และจดบันทึกแผนผังของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ
และก่อนทำการถอดสายไฟหรือสายเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ ออกจากตัวเครื่อง
ควรติดฉลากหมายเลขอ้างอิงจุดที่ถอดสายออก คู่กับปลายสายที่ถูกถอดออกไว้ด้วย
ตรวจสอบในช่อง DVD, CD, FLOPPY DISK , CARD READER หรือช่องต่อ
USB ต่าง ๆ ว่ามีแผ่นซีดี THUMB DRIVE หรืออุปกรณ์ใด ๆ ค้างอยู่หรือไม่
และควรนำส่งไปพร้อมคอมพิวเตอร์ของกลางด้วย
การนำส่งตรวจพิสูจน์ ควรใช้เทปคาดกั้นฝาปิดช่องต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ
เช่น ฝาปิดเครื่องช่องใส่ DVD หรือ USB พร้อมเซ็นชื่อกำกับ
แล้วจึงบรรจุลงกล่องกระดาษหรือถุงกระดาษซึ่งมีวัสดุกันกระแทกให้เรียบร้อย
หากเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอยู่ในสภาพ “ปิดทำงาน”
ห้ามทำการเปิดเครื่อง หากเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอยู่ในสภาพ “เปิดทำงาน”
ให้ถ่ายภาพสิ่งที่ปรากฏบนหน้าจอ โปรแกรมที่ถูกย่ออยู่ที่ TASK BAR
และเวลาที่มุมด้านล่างขวาของหน้าจอ หากโปรแกรมรักษาหน้าจอเปิดทำงานอยู่
(หน้าจอมืด) ให้เคลื่อนย้ายเมาส์หรือกดแป้นพิมพ์ SPACEBARS
เพื่อให้ปรากฏภาพบนหน้าจอแล้วจึงถ่ายภาพ
หากเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กอยู่ในสภาพ “ปิดทำงาน”
ไม่ต้องถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก
แต่ถ้าเครื่องอยู่ในสภาพ “เปิดทำงาน”
ควรถอดปลั๊กของเครื่องออกจากด้านหลังของตัวเครื่อง
และถ้าเป็นไปได้ควรถอดแบตเตอรี่ออกจากเครื่องด้วย
โดยบรรจุเก็บแบตเตอรี่พร้อมทั้งสายที่ใช้ชาร์จไฟไว้ในถุงให้เรียบร้อย
การนำส่งตรวจพิสูจน์
ควรใส่เครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กของกลางในกระเป๋ากันกระแทก
หากบรรจุกล่องอื่น ๆ ควรใส่สายชาร์จ หรืออุปกรณ์เสริมอื่น ๆ
แยกจากกันเพื่อป้องกันการกดทับซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายกับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กได้
ฮาร์ดดิสก์มีทั้งแบบบรรจุกล่องหรือแบบเปลือย
ควรถ่ายภาพภายนอกของอุปกรณ์ และหมายเลขเครื่อง (SN) จดบันทึกรายละเอียดต่าง
ๆ เช่น ยี่ห้อ ความจุ และหมายเลขอื่น ๆ ที่ปรากฏ
และหยิบจับอุปกรณ์ด้วยความระมัดระวังเนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความเสียหายได้ง่าย
การนำส่งต้องบรรจุใส่กล่องกระดาษหรือห่อกระดาษแบบมีวัสดุกันกระแทก
ก่อนปิดผนึกให้เรียบร้อยพร้อมทั้ง เซ็นชื่อกำกับ แล้วจึงนำส่งตรวจพิสูจน์
หากโทรศัพท์มือถืออยู่ในสภาพ “ปิดทำงาน” ให้ปล่อยไว้ในสภาพ
“ปิดทำงาน” ห้ามทำการเปิดเครื่อง หรือถอดแบตเตอรี่
เพื่อดูซิมการ์ดด้วยตัวเองโดยเด็ดขาด
หากโทรศัพท์มือถืออยู่ในสภาพ “เปิดทำงาน”
ถ่ายภาพที่ปรากฏบนหน้าจอรวมถึงวันที่เวลาของเครื่องและบรรจุไว้ในถุงกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
(ถ้ามี)
ถ่ายภาพ และจดบันทึกรายละเอียดเช่น ยี่ห้อ รุ่น
ก่อนบรรจุใส่กล่องหรือห่อกระดาษ แล้วปิดผนึกลงลายมือชื่อกำกับ
แล้วนำส่งตรวจพิสูจน์ ถ้าเป็นไปได้ให้แยก ๑ เครื่องต่อ ๑ ห่อ
หากมีส่งอุปกรณ์สายชาร์จแบตเตอรี่
หรือสายเชื่อมต่อข้อมูลให้นำส่งมาพร้อมด้วย
โปรดทราบว่า หากท่านปล่อยโทรศัพท์ไว้ในสภาพ “เปิดทำงาน” ควรจัดส่งไปให้กองพิสูจน์หลักฐานกลางโดยเร็วที่สุด
ถ่ายภาพแผ่นด้านหน้า/หลังของบัตร และถ้าเป็นแผ่นซีดี
หากของกลางมีมากกว่า ๑ รายการ
ควรระบุลำดับหรือข้อความที่เขียนอยู่บนแผ่นเพื่อใช้อ้างอิงกับรายละเอียดในหนังสือนำส่ง
ควรจะบรรจุในซองบรรจุแผ่นซีดีหรือซองกระดาษ
เช่นเดียวกับบัตรอิเล็กทรอนิกส์ ปิดหีบห่อให้เรียบร้อยก่อนนำส่งตรวจพิสูจน์
ถ่ายภาพ บรรจุกล่องกระดาษ/ซองกระดาษ แยกรายการให้ชัดเจน
หากเป็นอุปกรณ์ขนาดเล็กให้ปิดผนึกด้วยซองกันกระแทกให้เรียบร้อย
ลงลายมือชื่อกำกับ นำส่งตรวจพิสูจน์ในทุกกรณี
ถ้าเป็นไปได้ควรมีวัสดุรองรับแรงกดทับหรือแรงกระแทกเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียหาย
และควรหลีกเลี่ยงความชื้นและแสงแดด
ขอคำปรึกษาจาก
เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานกลางในการเข้าไปยังสถานที่เกิดเหตุ
และแยกผู้ต้องสงสัยออกจากคอมพิวเตอร์ในทันที
เนื่องจากผู้ต้องสงสัยอาจจะสามารถเข้าลบข้อมูลที่บันทึกอยู่ในคอมพิวเตอร์ของกลางโดยใช้คำสั่งส่งผ่านทางอุปกรณ์พกพาขนาดเล็ก
เช่นโทรศัพท์มือถือได้อย่างรวดเร็ว
กรณีเครื่องผู้ต้องสงสัยเป็นระบบเครือข่าย ห้าม
ตัดไฟจากแหล่งจ่ายไฟ หรือกระทำการ อื่นใด
เพราะการกระทำเช่นนั้นอาจทำให้ระบบได้รับความเสียหายสูญเสียข้อมูลสำคัญและทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรับผิดชอบต่อความเสียหาย
สื่อบันทึกข้อมูลดิจิตอลอื่น ๆ เช่น แผ่นซีดี ดีวีดี FLOPPY
DISK/THUMB DRIVE/SD CARD /MICRO SD
สามารถนำส่งโดยบรรจุอยู่ในซองพลาสติกเดียวกัน
หรือถุงเก็บวัตถุพยานรวมในใบเดียวกันได้
และควรมีวัสดุรองรับการกดทับหรือแรงกระแทกห่อหุ้มไว้
และควรติดฉลากระบุยี่ห้อ รุ่น ขนาด หรือจำนวนของกลางแต่ละรายการให้ชัดเจน
หมายเหตุ ควรบันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับของกลาง เช่น จำนวน
ยี่ห้อ หรือรุ่น
ให้ชัดเจนก่อนนำส่งตรวจพิสูจน์และควรมีลายมือผู้นำส่งเซ็นกำกับที่หีบห่อด้วยทุกครั้ง
ผู้เก็บรวบรวมวัตถุพยานต้องเลือกชนิดของหีบห่อที่บรรจุให้เหมาะสม
มีวิธีการปิดผนึกที่ถูกต้อง โดยต้องเขียนชื่อผู้ปิดผนึก
วันที่ทำการปิดผนึกลงบนวัสดุที่ใช้ปิดผนึกให้เรียบร้อย
มีการระบุรายละเอียดต่าง ๆ ของวัตถุพยานที่หีบห่อให้ครบถ้วนและชัดเจน
เพื่อแสดงให้เห็นว่าลำดับการครอบครองวัตถุพยาน (Chain of Custody)
ได้กระทำอย่างถูกต้องสามารถตรวจสอบได้
วัตถุพยานที่พบในสถานที่เกิดเหตุ
สามารถนำไปใช้ในการพิสูจน์ยืนยันการกระทำความผิดของผู้ต้องหาในชั้นศาลได้
ดังนั้นการดำเนินการเกี่ยวกับวัตถุพยานจึงจำเป็นต้องได้รับการการบันทึกอย่างเป็นระบบเพื่อให้ศาลมั่นใจว่าวัตถุพยานที่นำเสนอในศาลนั้น
เป็นวัตถุพยานที่ตรวจเก็บได้จากสถานที่เกิดเหตุจริง
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงวัตถุพยานเพื่อใส่ร้ายหรือช่วยเหลือผู้ต้องหา
รวมถึงต้องมีรายละเอียดกระบวนการจัดการวัตถุพยาน โดยต้องทราบว่าใคร
ทำอะไรกับวัตถุพยานนั้นบ้าง ให้ศาลตรวจสอบได้อย่างไม่มีข้อสงสัย เช่น
พบมีดในที่เกิดเหตุ จะต้องมีการบรรจุในภาชนะที่แข็งแรงปลอดภัย
จะต้องมีการบันทึกว่าวัตถุพยาน “มีด” นั้น
ตรวจเก็บได้จากสถานที่เกิดเหตุจนถึงการแปรค่า ลายนิ้วมือแฝง DNA
นั้นเป็นมีดเล่มเดิมที่ผ่านขั้นตอนการตรวจเก็บ
(ที่มา : คู่มือบริหารจัดการที่เกิดเหตุ พฐก.)
No comments:
Post a Comment