Friday, August 25, 2017

Digital Forensics: JTAG and Chip-off

Digital Forensics: JTAG and Chip-off

 กระบวนการตรวจพิสูจน์อุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่นั้น ต้องพยายามหลีกเลี่ยงการกระทำที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุด ดังนั้น จึงต้องทำการสกัดข้อมูลการใช้งานจากอุปกรณ์ดังกล่าวเพื่อนำไปตรวจพิสูจน์ การตรวจดูข้อมูลการใช้งานโดยตรงที่พยานหลักฐานเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนต่อ พยานหลักฐาน การสกัดข้อมูลการใช้งานอุปกรณ์แอนดรอยด์สามารถทำได้หลายวิธี 

 JTAG และ Chip-Off

 เป็นเทคนิคการสกัดข้อมูลที่เป็นพยานหลักฐานจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ซึ่งไม่สามารถใช้งาน

Physical Technique

 เป็นการสกัดข้อมูลการใช้งานของอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ทั้งหมด ทั้งที่ยังคงมีอยู่ในเครื่อง
(Allocated) และข้อมูลที่ถูกลบออกจากเครื่องไปแล้ว (Deleted data) รวมถึงข้อมูลที่ถูกเข้ารหัสด้วย ซึ่ง

สามารถทำได้ 2 รูปแบบ ดังนี้

(1) การสกัด โดยใช้ Hardware ปัจจุบันมี 2 เทคนิค คือ การทำ JTAG และ Chip-off
ซึ่งวิธีนี้คือการนำเอา NAND Flash ออกมาจากอุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่เพื่อสกัดข้อมูลการใช้งาน ถือเป็นการตรวจพิสูจน์แบบทำลายตัวอย่าง เหมาะสำหรับพยานหลักฐานที่ถูกทำลายเสียหาย ไม่สามารถเชื่อมต่อด้วยวิธีการตามปกติได้

(2) การสกัด โดยใช้ Software เป็นการสกัดข้อมูลที่ไม่ยุ่งยากเหมือนเทคนิค Hardware
และไม่ท าให้อุปกรณ์พยานหลักฐานเสียหาย สามารถเข้าถึงข้อมูลของพยานหลักฐานในระดับ
File System โดยในการสกัดข้อมูลนั้นต้องท าการ Root เครื่องเสียก่อน จากนั้นจึงทำการสกัดข้อมูล

Chip-Off Forensic
JTAG Forensic

 

 

 ที่มา:

  • กองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยี (บก.สสท.) สำนักงานเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (สทส.) 

  • Journal of Criminology and Forensic Science

หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WindowsForensic #computerforensic #ComputerForensics #dfir #forensics #digitalforensics #investigation #cybercrime #fraud 

Sunday, August 13, 2017

Digital Forensics: ตำรวจรวบตัวผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมได้ด้วยข้อมูลจาก Fitbit

Digital Forensics: ตำรวจรวบตัวผู้ต้องหาคดีฆาตกรรมได้ด้วยข้อมูลจาก Fitbit

Digital Forensics: Case Study 

By Sassy Sida

ยิ่งกว่าซีรี่ย์ Law & Order ตำรวจแกะรอยรวบตัวผู้ต้องหาคดีกรรมได้จากข้อมูลของเหยื่อใน Fitbit แก็ตเจ็คเพื่อสุขภาพที่เก็บข้อมูลแบบก้าวต่อก้าว!
 
rollingstone.com
Wearable tech can track heart rate and location

คอนนี่ ดาเบต ถูกยิงจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก เมื่อเดือนธันวาคม 2015 สามีของผู้ตาย ริชาร์ด ดาเบบต เล่าว่าขณะที่เขากำลังจะออกไปทำงานตอนประมาณ 8.30 น. กลับต้องกลับเข้ามาที่บ้านพักอีกครั้ง จากการถูกจับเป็นตัวประกันและถูกทรมานโดยชายรูปร่างสูง 6 ฟุต 2 นิ้ว ที่มีเสียงคล้าย วิน ดีเซล ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะยิง คอนนี่ จนเสียชีวิตด้วยปืนของเขา หลังจากที่เธอกลับมาจากการออกกำลังกายที่ยิม และหลบหนีไปเมื่อริชาร์ดหนีออกมาแจ้งตำรวจได้สำเร็จ

ราวกับซีรี่ย์ Law & Order เมื่อตำรวจเริ่มต้นการตรวจสอบข้อมูลดิจิตอลต่างๆของคู่สามีภรรยา พวกเขากลับพบว่าเรื่องเล่าของริชาร์ดนั้นเต็มไปด้วยจุดบอดและช่องโหว่ที่มากมาย
เริ่มจากข้อมูลบันทึกที่ได้จากระบบรักษาความปลอดภัยของตัวบ้าน ที่แสดงให้เห็นว่าไม่มีการบุกรุกหรือถูกงัดแงะแต่อย่างใด และสัญญาณเตือนภัยก็ดังขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้นหลังจากที่เกิดเหตุยิงกันภายในบ้าน อย่างที่สองก็คือ 45 นาทีหลังจากที่คอนนี่ควรจะถูกคนร้ายยิงเสียชีวิตไปแล้ว เธอกลับมีการโพสต์เฟซบุ๊คและส่งข้อความไปหาเพื่อนจากสัญญาณอินเตอร์เน็ตภายในบ้านของเธอเอง
 
https://www.cbsnews.com/news/48-hours-the-high-tech-alibi/
และสุดท้าย – สุดยอดข้อมูลจับผู้ต้องหาที่คาดไม่ถึง – ข้อมูลของคอนนี่จาก Fitbit ที่เธอใส่ไปยิมด้วยใรวันที่เกิดเหตุ ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าคอนนี่ยังเดินอยู่ทั่วบ้านเป็นชั่วโมง ทั้งๆที่ริชาร์ดเล่าว่าในช่วงเวลานั้นภรรยาของเขาถูกยิงจนเสียชีวิตไปแล้ว แต่คนตายที่ไหนจะยังเดินได้ตั้ง 371 เมตร
แม้ว่าคดีนี้จะทำให้ตำรวจต้องใช้เวลามากกว่า 1 ปี แต่ในที่สุดพวกเขาก็ใช้ข้อมูลการเดินของคอนนี่และข้อมูลบนเฟซบุ๊คของเธอในการออกหมายจับริชาร์ด ถึงแม้ข้อมูลดิจิตอลจากแก็ตเจ็ตจะไม่ได้ถูกใช้ในการพิจารณาคดีมากนัก แต่ในเพนซิลเวเนียก็เคยมีกรณีที่อัยการเขตใช้ข้อมูลจาก Fitbit ในการหักล้างหลักฐานในคดีข่มขืนมาแล้ว
Cr. thenextweb.com, o.aolcdn.com


ที่มา:  
Cr.Sassy Sida digitalmarketingwow
rollingstone
blognone


หมายเหตุ:เนื้อหาในเว็บไซต์นี้มีขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลและเพื่อการศึกษาเท่านั้น

* หากมีข้อมูลข้อผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย  รบกวนแจ้ง Admin เพื่อแก้ไขต่อไป
ขอบคุณครับ

#WindowsForensic #ComputerForensics #dfir #forensics #digitalforensics #computerforensic #investigation #cybercrime #fraud